ประเภทของโคลนพอกหน้า มาร์คหน้า

ประเภทของโคลนพอกหน้า มาร์คหน้า ที่มีอยู่ในโลกใบนี้

โคลนพอกหน้ามาจากไหน?

    ก่อนอื่นเรามาดูที่มาของโคลนที่เราเอามาใช้พอกหน้าลดสิวของเราสักหน่อย ว่ามันมีที่มาเป็นอย่างไร มาจากที่ไหนกันบ้าง โดยหลักๆแล้วจะแบ่งชนิดของโคลนตามแหล่งที่เกิดของมัน ซึ่งจะมีอยู่ 3 ที่หลักๆ

1. โคลนจากภูเขาไฟ

      เป็นโคลนที่ได้มาจากรอบๆภูเขาไฟ ซึ่งจัดเป็นโคลนแบบร้อน  โดยโคลนจากภูเขาไฟที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักอย่างดี ก็คือโคลนจากภูเขาไฟของอเมริกา โดยมีผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางค์หลายยี่ห้อ หลายชนิด ใช้ส่วนผสมของโคลนจากภูเขาไฟผสมเข้าไปด้วย เพราะโคลนจากภูเขาไฟนั้นมีแร่ธาตุหลายชนิดที่ช่วยบำรุงผิวพรรณ ลดการอักเสบของผิวหนัง ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดที่ผิว ช่วยให้ผิวพรรณสวย และยังสามารถช่วยรักษาบำบัดโรคบางชนิดได้ด้วย เช่น โรคผิวหนังอักเสบ โรคสะเก็ดเงิน
      แต่โคลนจากภูเขาไฟนี้จะเป็นโคลนที่มีปริมาณของกำมะถันและโพแทศเซียมสูง ถ้าผิวหน้าใครแพ้สารทั้ง 2 ตัวนี้ก็ควรหลีกเลี่ยงการพอกหน้าด้วยโคลนชนิดนี้



2. โคลนจากน้ำพุร้อน

       เป็นโคลนที่เกิดจากน้ำพุที่อยู่ใต้ดินกับดินบริเวณนั้นผสมผสานกัน และเกิดการบ่มมาเป็นเวลานานจนได้เป็นโคลนที่มีคุณภาพ เป็นครีมบำรุงผิว รักษาสิวจากธรรมชาติ ซึ่งโคลนชนิดนี้ในประเทศไทยเราเองก็มี คือ "ภูโคลน" บ่อโคลน บ่อโคลนที่นี่ถือว่าไม่ธรรมดานะคะ เพราะจัดเป็นบ่อโคลน 1 ใน 3 ของโลกเลยทีเดียว โดยจะอยู่ระหว่างทางไปปางอุ๋ง มีบริการน่าสนใจหลายอย่างส่วนใหญ่ก็จะเกี่ยวกับความสวยความงาม เช่น การพอกโคลน การแช่น้ำแร่ การนวดแผนไทย การนวดหน้า ใครสนใจลองดูได้จากเว็บนี้ครับ พอดีไปเจอมา http://pangoung.sadoodta.com  โดยโคลนจากน้ำพุร้อนนี้ก็จะคล้ายๆกับโคลนจากภูเขาไฟ คือมีกำมะถันและโพแทส เซียม ในปริมาณสูง แต่น้อยกว่าโคลนจากภูเขาไฟ

3. โคลนจากทะเล

       เป็นโคลนที่ได้มาจากก้นทะเลลึก จัดว่าเป็นโคลนที่มีแร่ธาตุที่มีประโยชน์เป็นจำนวนมาก เช่น เหล็ก แม็กนีเซียม ทองแดง เกลือ โคลนจากทะเลที่มีชื่อเสียงก็คือ "โคลนทะเลเดดซี" ซึ่งเป็นทะเลที่มีความเค็มสูงมาก เค็มจนขนาดที่ว่าลงไปในน้ำแล้วไม่จม ลอยอยู่ในทะเลได้สบายๆ(ขนาดกินน้ำทะเลบ้านเราก็เค็มแล้วนะ นี่เค็มกว่าอีก สงสัยต้องไปลองชิมสักครั้ง) โดยโคลนจากทะเลนี้ก็นิยมนำมาผสมในครีมบำรุงผิวมากกมายเช่นกัน และยังสามารถใช้รักษาโรคได้ด้วย เช่น โรครูมาตอยด์ โรคที่เกี่ยวกับความผิดปกติของฮอร์โมนเพศหญิง





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น